วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568 29:56 น.
ประชาสัมพันธ์
Home >> ข่าวและกิจกรรม >> สกอ.กทม. จัดงานงาน“รอมฎอนสัมพันธ์ ประจำปี 2568 (ฮ.ศ.1446)”
สกอ.กทม. จัดงานงาน“รอมฎอนสัมพันธ์ ประจำปี 2568 (ฮ.ศ.1446)”

สกอ.กทม. จัดงานงาน“รอมฎอนสัมพันธ์ ประจำปี 2568 (ฮ.ศ.1446)”

เมื่อวันพุธที่ 26 มีนาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร (สกอ.กทม.) จัดงาน “รอมฎอนสัมพันธ์ ประจำปี 2568 (ฮ.ศ. 1446) ณ หอประชุม ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ  เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างสีสันรอมฎอนแห่งการจัดเลี้ยงอาหารแก่ ผู้ถือศีลอด และกระชับพื้นที่แห่งความรักและผูกพันระหว่างผู้บริหารมัสยิดและประชาคมมุสลิม เริ่มเวลา 17.30 น. ด้วยการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน โดยนายธีระศักดิ์ โพธิ์ทอง การกล่าวต้อนรับโดย นาย อาหะหมัด ขามเทศทอง รองประธานกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “บทเรียนที่เราได้รับจากเดือนรอมฎอน” โดย นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี สรุปได้ว่า บทเรียนที่เราได้รับจากเดือนรอมฎอน ถือเป็นเดือนแห่งความศรัทธาและการฝึกฝนตนเองสำหรับมุสลิมทั่วโลก นอกจากจะเป็นช่วงเวลาของการถือศีลอดแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองในหลายด้าน ดังนี้
1. การยำเกรงต่ออัลลอฮ์ (ตักวา) รอมฎอนเป็นช่วงเวลาที่ฝึกให้เรามีความยำเกรงต่ออัลลอฮ์อย่างแท้จริง ทั้งในเรื่องการควบคุมตนเองและการละเว้นจากสิ่งต้องห้าม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้จิตใจสะอาดและใกล้ชิดกับพระองค์มากขึ้น
2. ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับอัลลอฮ์ การปฏิบัติศาสนกิจในเดือนนี้ เช่น การละหมาด การอ่านอัลกุรอาน และการบริจาคทาน ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเรากับอัลลอฮ์ให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
3. การฝึกความอดทน การถือศีลอดสอนให้เราอดทนต่อความหิว กระหาย และสิ่งยั่วยุอื่น ๆ รวมถึงการควบคุมอารมณ์และคำพูด ซึ่งเป็นการฝึกความอดทนทั้งร่างกายและจิตใจ
4. การตระหนักรู้ว่าถูกสอดส่องดูแล แม้จะไม่มีใครเห็น แต่ผู้ถือศีลอดจะรู้สึกถึงการถูกสอดส่องจากอัลลอฮ์ ทำให้ไม่กล้าทำสิ่งผิดแม้ในที่ลับตาคน
5. การมีมารยาทและความรับผิดชอบ รอมฎอนช่วยให้เราระวังคำพูดและการกระทำมากขึ้น ฝึกความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น รวมถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่
6. ความโอบอ้อมอารีและการแบ่งปัน เดือนนี้เป็นช่วงเวลาที่มุสลิมให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ยากไร้ การบริจาคทาน และการเลี้ยงอาหารละศีลอด สร้างจิตสำนึกในการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
7. ความเสมอภาคและความเป็นหนึ่งเดียว รอมฎอนสอนให้เห็นถึงความเสมอภาคในสังคมมุสลิม ไม่ว่าจะรวยหรือจน ทุกคนต้องถือศีลอดเหมือนกัน และละหมาดร่วมกันโดยไม่มีการแบ่งชนชั้น
8. การมีระเบียบวินัยและรู้คุณค่าของเวลา การถือศีลอดต้องเริ่มและสิ้นสุดตรงเวลา ฝึกให้เราตรงต่อเวลาและรู้จักวางแผนการใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีประสิทธิภาพ
9. การอบรมบุตรหลาน เดือนรอมฎอนเป็นโอกาสในการปลูกฝังค่านิยมและอุดมการณ์อิสลามให้กับบุตรหลานผ่านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมศาสนา
10. การดูแลสุขภาพ การถือศีลอดช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนจากการกินตลอดปี ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหารและสุขภาพโดยรวม
11. การเข้าใจและเห็นใจผู้ยากไร้ การอดอาหารทำให้เราเข้าใจความยากลำบากของผู้ขัดสน เกิดความเห็นอกเห็นใจและพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น
12. การสะสมความดีและขัดเกลาจิตใจ รอมฎอนเป็นโอกาสในการสะสมความดี เช่น การละหมาด การอ่านอัลกุรอาน
การขออภัยโทษ และการทำจิตใจให้บริสุทธิ์
บทเรียนเหล่านี้ หากนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน จะช่วยยกระดับทั้งตัวบุคคลและสังคมให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากเดือนรอมฎอนจบลง
ทั้งนี้ ก่อนเริ่มละศีลอด (อิฟฏ็อร) ผศ.ดร.วิศรุต เลาะวิถี รองประธานกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวขอบคุณจุฬาราชมนตรีและผู้มาร่วมงานด้วย การจัดเลี้ยงละศีลอดในครั้งนี้ มีผู้แทนมัสยิดมาร่วมงาน จำนวน 140 มัสยิดๆ ละ 3-5 คน รวมทั้งกลุ่มอนุกรรมการสตรีประจำมัสยิด และผู้มีเกียรติ รวมประมาณ 1,200 คน

  

  

  

  

  

  

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

กรุณาเติมคำตอบในช่องว่างก่อนเข้าระบบ *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Scroll To Top