เดือนเก่าที่ดีจากไป ต้อนรับเดือนใหม่ที่ดีกว่า
เพิ่มคุณค่าด้วยการอิบาดะฮ์
อาจารย์อาลี กองเป็ง
ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก
เมื่อเดือนชะบานที่พี่น้องมุสลิมได้ปฏิบัติความดีโดยการถือศีลอดที่เป็นสุนัต (สมัครใจ) ตามแบบฉบับของท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) ที่ท่านทำการถือศีลอดโดยมีเจตนาที่อาม้าลของท่านนำสู่องค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ในสภาพที่ท่านถือศีลอด และพี่น้องมุสลิมยังคงขออภัยโทษ ขอริสกี(ปัจจัยยังชีพ) ต่างๆ จากพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ให้รอดพ้นจากความเลวร้าย ขอให้มีอายุยืนนานเพื่อประกอบอิบาดะห์ ขอให้กลับสู่พระองค์ด้วยคำว่า ฮุสนุ้ลคอตีมะห์ และอีกมากมายในค่ำนิฟูชะบาน เดือนชะบานได้จากไปและไม่รู้ว่าเราจะได้พบอีกหรือไม่ แต่ด้วยความเมตตาและเนียะอ์มัตของพระองค์ที่มีต่อบ่าว พระองค์จึงทรงประทานเดือนที่ถัดมาซึ่งเป็นเดือนแห่งทำความดีที่จะเพิ่มพูนนั้นคือเดือนที่มีเสียงร้องเรียกว่า
يَا بَاغِيَ الشَرِّ أَقْصِرْ يَا بَاغِيَ الْخَيْرِ أَقْبِلْ
ความว่า “โอ้ผู้แสวงหาความบาปจงละทิ้งมันได้แล้ว โอ้ผู้แสวงหาความดีจงมุ่งสู่มันเถิด ความจริงเดือนร่อมาฎอนได้มาสู่พวกท่านคือเดือนแห่งบารอกัตและคุณธรรมความดี คือเดือนที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงประทานความเมตตาซึ่งมันจะปกคลุมพวกท่านด้วยเนียะอ์มัต (ความสุข)”
อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงมองมายังการตออัต (ภัคดี) ที่จริงใจจากท่าน พระองค์ทรงนำความดีของพวกท่านอวดต่อมาลาอีกะห์ ท่านทั้งหลายอย่าห้ามตัวท่านจากความเมตตาของพระองค์เลย แท้จริงชาวนรกคือผู้ไม่มุ่งหวังและกักตัวเองจากเนียมัตของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) และไม่ยอมรับความพึ่งพอใจของพระองค์ ได้มีบันทึกของท่านบัยฮะกีย์ อิบนุ คุซัยมะฮ์ อบูชัยค และอิบนุฮิบบาน จากท่านซัลมาลอัลฟารีซีย์ (รฎ) กล่าวว่า
خَطَبَنَا رَسُوْلُ اللهِ فِيْ آخِرِ يَوْمٍ مِنْ شَعْبَانَ فَقَالَ :
ท่านนบี (ศ็อลฯ) ได้แสดงคุตบะฮ์ในวันสุดท้ายของเดือนชะบานโดยท่านกล่าวว่า
يَاأَيُّهَا النَّاسُ قَد أَظَلَّكُمْ شَهْرٌ عَظِيْمٌ مُبَارَكٌ شَهْرٌ فِيْهِ لَيْلَةٌ خَيْرٌ مِنْ أَلْفِ شَهْرٍ
ความว่า “โอ้ประชาชนทั้งหลายความจริงเดือนอันยิ่งใหญ่ที่มีความเพิ่มพูน สิริมงคลได้ปกคลุมพวกท่าน เป็นเดือนซึ่ง มีคืนหนึ่งดีกว่า หนึ่งพันเดือน”
شَهْرٌ جَعَلَ اللهُ صِيَامَهُ فَرِيْضَةً وَقِيَامَ لَيْلِهِ تَطَوُّعًا
ความว่า “คือเดือนที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงประทานการถือศีลอดเป็นฟัรดูและการละหมาดในยามค่ำคืนเป็นสุนัต”
مَنْ تَقَرَّبَ فِيْهِ بِخَصْلَةٍ مِنَ الْخَيْرِ كَانَ كَمَنْ أَدَّى فَرِيْضَةً فِيْمَا سِوَاهُ
ความว่า “ผู้ใดทำการใกล้ชิดต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) ด้วยส่วนหนึ่งจากความดีในเดือนนี้ ประดุจดั่งเขา ปฏิบัติความดีเทียบเท่าผู้ทำอีบาดะห์ที่เป็นฟัรฎูในเดือนอื่น”
وَمَنْ أَدَّى فِيْهِ فَرِيْضَةً كَانَ كَمَنْ أَدَّى سَبْعِيْنَ فَرِيْضَةً فِيْمَاسِوَاهُ
ความว่า “และผู้ใดปฏิบัติความดีที่เป็นฟัรฎูในเดือนรอมฎอน ประดุจดังเขาปฏิบัติความดีเทียบเท่า ผู้ทำความดีในฐานะเป็นฟัรฎู เจ็ดสิบเท่าในเดือนอื่นๆ”
وَهُوَ شَهْرُ الصَّبْرِ، وَالصَّبْرُ ثَوَابُهُ الْجَنَّةُ ، وَشَهْرُ الْمُوَاسَاتِ ، وَشَهْرٌ يُزَادُ فِيْهِ رِزْقُ الْمُؤْمِنِ
ความว่า “มันคือเดือนแห่งความอดทน และความอดทนนั้นผลตอบแทนคือสวรรค์ มันคือเดือนแห่งความเสมอภาค และคือเดือนที่เพิ่มพูนริสกีแก่บรรดามุมิน”
مَنْ فَطَّرَ فِيْهِ صَائِماً كاَنَ مَغْفِرَةً لِذُنُوْبِهِ ، وَعِتْقَ رَقَبَتِهِ مِنَ النَّارِ
ความว่า “ผู้ใดให้อาหารแก่ผู้ละศีลอดมันคือการลบล้างโทษและบาปทั้งหลาย และผลบุญเท่ากับปลดพันธนาการที่ต้นคอของเขาจากนรก”
وَكَانَ لَهُ مِثْلُ أَجْرِهِ مِنْ غَيْرِ اَنْ يَنْقُصَ مِنْ أَجْرِهِ شَيْءٌ مَنْ فَطَّرَ صَائِمًا مِنْ كَسْبٍ حَلاَلٍ صَلَّتْ عَلَيْهِ الْمَلاَئِكَةُ لَيَالِيْ رَمَضَانَ
ความว่า “และเขาจะได้ผลบุญเท่ากับผู้ถือศีลอด โดยไม่ลดหย่อนเลยแม้แต่น้อย ผู้ใดให้อาหารแก่ผู้ละศีลอดจากรายได้ที่ฮาล้าลเหล่ามาลาอีกะห์จะขออภัยโทษแก่เขาตลอดในยามค่ำคืนแห่งรอมฎอน”
وَصَافَحَهُ جِبْرِيْلُ لَيْلَةَ الْقَدْرِ
ความว่า “และยิบรออิ้ล จะมา (ญาบะ) สัมผัสมือของเขาในคืนลัยละตุ้ลก๊อดร”
وَمَنْ صَافَحَهُ جِبْرِيْلُ يَرِقُّ قَلْبُهُ وَتَكْثُرُ دُمُوْعُهُ
ความว่า “ผู้ใดก็ตามที่ยิบรออิ้ลได้สัมผัสมือเขา หัวใจของผู้นั้นจะนุ่มนวล (สงบสุข) น้ำตาจะไหลจากดวงตาเขา”
قَالَ سَلْمَانُ فَقُلْتُ : ياَرَسُوْلَ اللهِ أَفَرَأَيْتَ مَنْ لَمْ يَكُنْ عِنْدَهُ
ความว่า “ท่านซัลมาล อัลฟาริซีย์ กล่าวว่าโอ้ท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) ท่านเห็นเป็นอย่างไร สำหรับคนที่ไม่มีความสามารถดังกล่าว”
فَقَالَ رَسُوْلُ اللهِ : يُعْطِى اللهُ هَذَا الثَّوَابَ مَنْ فَطَّرَ صَائِمًا عَلَى تَمْرَةٍ أَوْشَرْبَةِ مَاءٍ أَوْمَذْقَةِ لَبَنٍ
ความว่า “ท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) กล่าวว่า อัลลอฮ์ (ซ.บ.) จะทรงประทานผลบุญผู้ให้อาหารแก่ผู้ละศีลอดด้วยอินทผาลัมเพียงผลเดียวหรือให้น้ำดื่มเพียงอึกเดียวหรือหนึ่งจิบจากการลิ้มรสของน้ำนม”
وَهُوَ شَهْرٌ أَوَّلُهُ رَحْمَةٌ وَأَوْسَطُهُ مَغْفِرَةٌ وَآخِرُهُ عِتْقٌ مِنَ النَّارِ
ความว่า “ช่วงแรกของรอมฎอน คือเราะห์มัต (เมตตา) ช่วงกลางคือมัฆฟีเราะห์ (การอภัย) และช่วงท้ายคือการปลดปล่อยพันธนาการจากนรก”
وَمَنْ خَفَّفَ عَنْ مَمْلُوْكِهِ فِيْهِ غَفَرَ اللهُ لَهُ وَأَعْتَقَهُ مِنَ النَّارِ
ความว่า “และผู้ใดให้ความผ่อนปรนแก่ผู้ที่อยู่ใต้การปกครอง(การบังคับบัญชา)ของเขาในเดือนนี้ อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงอภัยแก่ผู้นั้นและปลดปล่อยจากนรก”
فَاسْتَكْثِرُوْا فِيْهِ مِنْ أَرْبَعِ خِصَالٍ خِصْلَتَيْنِ تُرْضُوْنَ بِهِمَا رَبَّكُمْ
ความว่า “เจ้าทั้งหลายจงสะสมให้มากด้วยสี่ประการในเดือนนี้ สองประการแรก พวกเจ้าจะได้รับความพึ่งพอใจจากพระเจ้าของเจ้า”
وَخِصْلَتَيْنِ لاَغِنَى بِكُمْ عَنْهُمَا
ความว่า “และอีกสองประการมันจะไม่พอเพียงจากพวกเจ้าจากการละทิ้งมันทั้งสอง”
فَأَمَّا الْخِصْلتَاَنِ اللَّتَانِ تُرْضُوْنَ بِهِمَا رَبَّكُمْ فَشَهَادَةُ اَنْ لاَ إِلَهَ إلاَّ اللهُ ، وَتَسْتَغْفِرُوْنَهُ
ความว่า “สองประการแรกนั้น พระองค์ทรงพอใจแก่พวกเจ้า มันคือ การปฎิญาณว่า ไม่มีเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) และเจ้าทั้งหลายจงทำการขออภัยโทษต่อพระองค์”
وَأَمَّا الْخِصْلَتَانِ اللَّتَانِ لاَغِنَى بِكُمْ عَنْهُمَا فَتَسْأَلُوْنَ الله َالْجَنَّةَ وَتَعُوْذُوْنَ بِهِ مِنَ النَّارِ
ความว่า “และสองประการหลังซึ่งการละทิ้งมันนั้นจะไม่ก่อเกิดความพอเพียงแก่เจ้า นั้นคือเจ้าทั้งหลายจงขอสวรรค์จากพระองค์ และเจ้าทั้งหลายจงขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้รอดพ้นจากนรก”
وَمَنْ سَقَى صَائِمًا سَقَاهُ اللهُ مِنْ حَوْضِيْ شَرْبَةً لاَ يَظْمَأُ بَعْدَهَا حَتَّى يَدْخُلَ الْجَنَّةَ
ความว่า “และผู้ใดให้น้ำดื่มแก่ผู้ถือศีลอดเมื่อเขาละศีลอด อัลลอฮ์ (ซ.บ.) จะทรงให้เขาได้ดื่มน้ำจากบ่อน้ำของฉันเพียงอึกเดียวเขาจะไม่มีความกระหายหลังจากนั้นอีกเลย จนเดินทางเข้าสู่สวรรค์”
ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก ดังที่กล่าวมาเป็นสำนวนของผู้ที่ประเสริฐไม่มีคำกล่าวใดที่จะมีคุณค่าไปมากกว่านี้ เว้นแต่คำดำรัสของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) คำกล่าวของท่านร่อซู้ล คือธรรมนูญแห่งการถือศีลอด และชี้แจง ผลของผู้ใจบุญและการละหมาดยามค่ำคืน ท่านได้ขีดเส้นทางสู่การเดินทางที่เที่ยงตรงแก่ผู้ปรารถนาสู่เส้นชัย ของผู้ที่ทรงเกียรติ
ท่านที่รักโปรดตอบรับการเรียกร้องของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) เถิด และจงรีบเร่ง สู่การถือศีลอดโดยความปลาบปลื้ม จงขะมักเขม้นด้วยการแสดงออกซึ่งอัตลักของความเป็นมุสลิม จงระวังการถูกประณามและคำเยียบหยามซึ่งมันจะเกิดจากผู้ที่ใจมีโรคและสติที่ขาดคุณธรรม และมันชั่งเลวร้ายเหลือเกินจากที่กลุ่มหนึ่งร่วมกันและส่งเสริมให้ละทิ้งการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนซึ่งพวกเขาหลบหนี จาก อัรเราะห์มาน (พระเจ้าผู้ทรงเมตตา) ซึ่งเท่ากับเขาทำลายจากส่วนหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบของอิสลามนั่นคือเขายอมรับการมอบ ญาฮันนัม ที่พักอันเลวร้ายจากอัลลอฮ์ (ซ.บ.)
ท่านพี่น้องที่รัก ด้วยความรักจากใจ เขาทั้งหลายจงคิดใหม่โดยกลับใจด้วยการถือศีลอดและขออภัยต่อพระองค์เถิด
اَللَّهُمَّ إِنَّكَ عَفُوٌّ تُحِبُّ الْعَفْوَ فَاعْفُ عَنِّيْ
ความว่า “โอ้อัลลอฮ์ (ซ.บ.) แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงอภัยยิ่ง พระองค์ทรงปรารถนาการให้อภัย โปรดอภัยโทษแก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด”
أَقُوْلُ قَوْلِيْ هَذَا وَاَسْتَغْفِرُاللهَ الْعَظِيْمَ لِيْ وَلَكُمْ وَلِسَائِرِ الْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ فَاسْتَغْفِرُوْهُ اِنَّهُ هُوَ الْغَفُوْرُ الرَّحِيْمُ
สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร (สนง.กอ.กทม.) สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร
