วันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2567 28:05 น.
ประชาสัมพันธ์
Home >> บทความศาสนา >> คุตบะห์ >> ส่วนหนึ่งจากเหตุการณ์ในเดือนรอยับ
ส่วนหนึ่งจากเหตุการณ์ในเดือนรอยับ

ส่วนหนึ่งจากเหตุการณ์ในเดือนรอยับ

ส่วนหนึ่งจากเหตุการณ์ในเดือนรอยับ

اَلْحَمْدُ ِللهِ اَّلذِيْ تَفَضَّلَ عَلَى عِبَادِهِ بِأَنْوَاعِ الْمَفَاخِرِ .  وَفَضَّلَ بَعْضَ الشُّهُوْرِعَلَى بَعْضٍ بِأَنْوَاعِ الْمَزَايَا وَأَجْمَلِ الْمَآثِرِ . وَجَعَلَ مِنْ أَجَلِّهَا وَ أَفْضَلِهَا شَهْرَهُ الْحَرَامَ رَجَبَ الَّذِيْ عُرِّجَ فِيْهِ بِسَيِّدِ اْلأَوَائِلِ وَاْلأَوَاخِرِ . وَأَشْهَدُ أَنْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللهُ اْلكَبِيْرُ الْمُتَعَالُ  .  وَأَشْهَدُ أَنَّ مُحَمَّدًا رَسُوْلُ اللهِ الْمُتَحَلِّيْ بِأَشْرَفِ الْخِصَالِ  .  اَللَّهُمَّ صَلِّ وَسَلِّمْ عَلَى مُحَمَّدٍ حَمِيْدِ اْلفِعَالِ  .  وَعَلَى آلِهِ وَصَحْبِهِ عَدَدَ مَاكَانَ وَمَايَكُوْنُ  . 

أَمَّا بَعْدُ فَيَا أَيُّهَا النَّاسُ  .  أُوْصِيْكُمْ وَنَفْسِيْ أَوَّلاً بِتَقْوَى اللهِ تَعَالَى وَطَاعَتِهِ  .  فَقَدْ قَالَ اللهُ تَعَالَى فِي اْلقُرْآنِ الْكَرِيْمِ  :  سُبْحَانَ الَّذِيْ أَسْرَى بِعَبْدِهِ لَيْلاً مِنَ الْمَسْجِدِ الْحَرَامِ اِلَى الْمَسْجِدِ اْلأَقْصَى الَّذِيْ باَرَكْنَا حَوْلَهُ لِنُرِيَهُ مِنْ آيَاتِنَا إِنَّهُ هُوَ السَّمِيْعُ الْبَصِيْرُ 

ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก

         ขณะที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงปรารถนาที่จะให้ฟากฟ้า ได้รับเกียรติโดยการเยือนของท่านร่อซู้ล ประดุจดังพื้นโลกดุนยาได้รับเกียรติโดยที่ท่านร่อซู้ลเป็นศาสนทูตของ อัลลอฮ์ในพื้นโลกดุนยา  อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงได้บัญชาให้ยิบรออี้ลและมีกาอี้ล มายัง นบีมูฮำหมัดในคืนที่ 27 ในเดือนรอยับตามทัศนะที่ให้น้ำหนักของบรรดาปวงปราชญ์       

          ท่านนบี (ศ้อลฯ) ได้เดินทางโดยการนำทางของยิบรออี้ลขึ้นสู่หลังของบุรอก  (اَلْبُرَاقُ) ไปที่เมืองชาม ( اَلشَّامُ ) ในขณะนั้น

         อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงตรัสว่า

سُبْحَانَ الَّذِي أَسْرَى بِعَبْدِهِ لَيْلاً مِّنَ الْمَسْجِدِ الْحَرَامِ إِلَى الْمَسْجِدِ اْلأَقْصَى الَّذِي بَارَكْنَا حَوْلَهُ لِنُرِيَهُ مِنْ آيَاتِنَا إِنَّهُ هُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ  :  سورة الإسراء  الآية 1

          ความว่า  “มหาบริสุทธิ์ ผู้ทรงนำบ่าวของพระองค์เดินทาง (อิสรออฺ) ในเวลากลางคืน จากมัสยิดอัลฮะรอมไปยังมัสยิดอัลอักซอ ซึ่งบริเวณรอบมันเราได้ให้เกิดความจำเริญ เพื่อเราจะให้เขาเห็นบางอย่างจากสัญญาณต่างๆ ของเรา แท้จริงอัลลอฮ์ (ซ.บ.) คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น”

          ท่านนบี (ศ้อลฯ) เดินทางจากมัสยิดอัลฮะรอมไปยังนครมักกะห์ ถึงมัสยิด  อักซอ ประเทศเยรูซาเล็ม ในปัจจุบัน เพียงส่วนหนึ่งของกลางคืนทั้งที่ระยะทางในเวลาการเดินทางถ้าใช้กองคาราวานจะใช้เวลาถึง 40 วัน การอิสรออฺ ท่านนบี(ศ้อลฯ) ได้เกิดขึ้นทั้งวิญญาณและเรือนร่างของท่านขณะที่ท่านไม่หลับและมีสติสัมปชัญญะ มิใช่ความฝันตามความคิดของผู้ขาดอีหม่าน อัลลอฮ์ (ซ.บ) ทรงประทานให้ท่านนบี (ศ้อลฯ) เห็นเครื่องหมายต่างๆ และรับทราบเรื่องราวที่สติปัญญาของมนุษย์ไม่สามารถล่วงรู้ได้ จนกระทั้งท่านนบี (ศ้อลฯ) ได้เข้าสู่บัยติ้ลมักดิส ซึ่งเป็นศาสนสถาน ทั้งบรรดานบีและบรรดาร่อซู้ล รวมตัวกันเพื่อต้อนรับท่านนบีมูฮำหมัด (ศ้อลฯ)

         ท่านนบีมูฮำหมัด (ศ้อลฯ) ได้ทำหน้าที่นำละหมาดโดยเป็นอิหม่ามแก่บรรดานบีและบรรดาร่อซู้ลเหล่านั้น บางรายงานกล่าวว่าเขาทั้งหลายต่างให้เกียรติกันโดยการเชื้อเชิญซึ่งกันและกัน ให้ทำหน้าที่อิหม่าม จนกระทั้งยิบรออิ้ล ได้เสนอให้ท่านนนีมูฮำหมัด (ศ้อลฯ) นำละหมาดหลังจากเสร็จสิ้นการละหมาดบรรดาร่อซู้ลได้แสดงการต้อนรับ นบีมูฮำหมัด  (ศ้อลฯ) พร้อมสรรเสริญต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) 

           ท่านนบีมูฮำหมัด (ศ้อลฯ) กล่าวว่า ทุกท่านได้สรรเสริญต่ออัลลอฮ์ ข้าพเจ้าก็ขอสรรเสริญต่อพระองค์ โดยกล่าวว่า มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ซึ่งได้แต่งตั้งข้าพเจ้าเป็นร่อซู้ล เพื่อแผ่ความเมตตาแก่ชาวโลก และเป็นผู้แจ้งข่าวดีให้เขาทั้งหลายปฏิบัติ และแจ้งข่าวร้ายให้เขาทั้งหลายหลีกเลี่ยง พระองค์ทรงประทาน     กุรอ่านเหนือข้าพเจ้าในนั้นได้ชี้ชัดทุกสิ่ง พระองค์ทรงดลบรรดาลให้ประชากรของข้าพเจ้า เป็นเลิศแห่งอุมมะห์ เป็นอุมมะห์สายกลางกลุ่มแรกและกลุ่มสุดท้ายแห่ง  อุมมะห์  พระองค์ทรงเปิดหัวใจข้าพเจ้า ทรงยกโทษแก่ข้าพเจ้า ทรงเทอดการรำลึกของข้าพเจ้า ทรงให้ข้าพเจ้าเป็นผู้เปิดและผู้ปิด ท่านนบีอิบรอฮีม (อ.ล.) จึงกล่าวว่า  นี่แหละคือความประเสริฐของท่าน โอ้…มูฮำหมัด

         หลังจากนั้นท่านนบี (ศ้อลฯ) ได้ขึ้นสู่ฟากฟ้าจนถึงฟากฟ้าชั้นที่เจ็ด (เมี๊ยะรอจ) และได้ผ่านม่านบังทั้งหลายจนถึงซิดร่อตุ้ลมุนตะฮา (سِدْرَةُ الْمُنْتَهَى) คือ ต้นไม้ต้นหนึ่ง ซึ่งมีแม่น้ำหลายสายที่บริสุทธิ์ ไหลออกมาจากโคนของมัน หลายสายจากน้ำนมที่ไม่เปลี่ยนรสชาติ หลายสายจากน้ำอัมฤทธิ์รสชาติอันล่ำเลิศ หลายสายจากน้ำผึ้งที่บริสุทธิ์ เป็นต้นไม้ที่มีร่มเงา ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางในร่มเงานั้นถึง 70 ปี ก็ไม่สามารถพ้นร่มเงาได้ ท่านนบี (ศ้อลฯ) แลเห็นสวรรค์และความผาสุขในนั้น ซึ่งไม่มีสายตาใดแลเห็น และหูได้ยิน ใจที่คิดมาก่อนของมนุษย์ในโลกทั้งหลาย

          เมื่อท่านนบี (ศ้อลฯ) ได้ถูกปกคลุมไปด้วยรัศมีแห่งอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ท่านนบี (ศ้อลฯ) ก็รู้สึกได้ว่าท่านได้อยู่ใน ( اَلْحَضْرَةُ الرَّبَّانِيِّةُ )

          ท่านนบี (ศ้อลฯ) แสดงความเคารพและคารวะโดยกล่าวว่า

اَلتَّحِيَّاتُ الْمُبَارَكاَتُ الصَّلَوَاتُ الطَّيِّبَاتُ لِلَّهِ

         ความว่า “ความเคารพซึ่งสิริมงคลพระพรอันบริสุทธิ์เป็นสิทธิ์แห่งอัลลอฮ์”

          อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงตอบรับว่า

اَلسَّلاَمُ عَلَيْكَ اَيُّهَاالنَّبِيُّ وَرَحْمَةُ اللهِ وَبَرَكَاتُهُ

         ความว่า “สันติจงมีเหนือท่านนบี พร้อมด้วยความเมตตาและสิริมงคล”

         ท่านนบี (ศ้อลฯ) เมื่อได้รับพรดังกล่าว ท่านจึงมีความปรารถนาในพระพรนั้น ให้เกิดแก่บ่าวของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ที่เป็นประชากร (อุมมะห์) ของท่าน ท่านจึงกล่าวว่า

اَلسَّلاَمُ عَلَيْنَا وَعَلَى عِبَادِ اللهِ الصَّالِحِيْنَ

         ความว่า“ขอความสันติได้มีเหนือพวกเรา และเหนือบ่าวที่ดีของพระองค์”

         มวลมาลาอีกะห์ทั่วท้องฟ้าเปล่งเสียงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายมาก่อนว่า

أَشْهَدُ أَنْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللهُ وَأَشْهَدُ أَنَّ مُحَمَّدًا رَسُوْلَ اللهِ

         ความว่า  “ข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใด ที่ถูกกราบไหว้โดยเที่ยงแท้นอกจากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) และข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่า มูฮำหมัดเป็นร่อซู้ลของอัลลอฮ์ (ซ.บ.)”

         เป็นพระเมตตาอันใหญ่หลวง ที่ได้ทรงประทานอิบาดะห์อันประเสริฐสุด ซึ่งเป็นอิบาดะห์ที่แยกความเป็นมุสลิมและผู้ปฏิเสธ นั้นคือการละหมาดวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง 5 เวลา ซึ่งผลบุญเท่ากับ 50 เวลา หลังจากได้รับการผ่อนปรนแล้ว

ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก

          การงานดังกล่าว ทำให้ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลายรู้ซึ้งถึงความสำคัญของการละหมาด ว่าเป็นอิบาดะห์อันดับต้นและเป็นองค์ประกอบของอิสลาม รองจากการปฏิญาณตน โดยจะสังเกตได้ว่า การปฏิบัติอิบาดะห์อื่นๆ ที่นอกจากการละหมาดแล้ว อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงประทานว่าฮีย์ (وَحْيٌ) แก่ท่านโดยผ่านยิบรออิ้ลนำมาสู่ยังพื้นโลก ส่วนการละหมาดท่านได้ขึ้นไปรับจากพระองค์โดยตรง ในคืนวันที่ 27 เดือนรอยับ

          ขออัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงประทานให้พวกเราได้เป็นบ่าวของพระองค์ที่มีความยำเกรง

أَقُوْلُ قَوْلِيْ هَذَا وَأَسْتَغْفِرُ اللهَ الْعَظِيْمَ لِيْ وَلَكُمْ وَلِسَائِرِ الْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ فَاسْتَغْفِرُوْهُ إِنَّهُ هُوَ الْغَفُوْرُ الرَّحِيْمُ

 

คุตบะห์ฉบับไฟล์ PDF

  • ดาวน์โหลดไฟล์คุตบะห์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

กรุณาเติมคำตอบในช่องว่างก่อนเข้าระบบ *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Scroll To Top