วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 20:15 น.
ประชาสัมพันธ์
Home >> บทความศาสนา >> บทความจากวิทยากร >> ความประเสริฐของเดือนรอมฎอน
ความประเสริฐของเดือนรอมฎอน

ความประเสริฐของเดือนรอมฎอน

ความประเสริฐของเดือนรอมฎอน

อาจารย์อาลี  กองเป็ง

ท่านพี่น้องร่วมศรัทธา

          ความประเสริฐของเดือนรอมฎอน คือเดือนแห่งรัสมี เดือนแห่งการขออภัย เดือนแห่งการภักดีต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.)เดือนซึ่งที่บรรดามาลาอิกะห์แยกย้ายกันบอกข่าวดีแก่บ่าวของผู้ทรงเมตตา คือผู้ที่ถือศีลอดโดยเคร่งครัด และขะมักเขม้นสู่บ้านของอัลเลาะห์สภาพที่มีจิตใจที่บริสุทธิ์

          พี่น้องร่วมศรัทธา ส่วนหนึ่งที่เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญของการถือศีลอด คืออบรมบ่มนิสัยตนเอง รักษาตัวรักษาใจให้สะอาดจากสิ่งที่น่ารังเกียจตามหลักการอิสลาม มิใช่เพียงแค่อดข้าว อดน้ำเท่านั้น ดังที่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ (ศ็อลฯ) กล่าวว่า

لَيْسَ الصِّيَامُ مِنَ الطَّعَامِ وَالشَّرَابِ إِنَّمَا الصِّيَامُ مِنَ اللَّغْوِ وَالرَّفَتِ

ความว่า :  “มิใช่การถือศีลอดเพียงแต่การอดอาหารและน้ำ แท้จริงการถือศีลอดคือ การอดกลั้นจากวาจาที่ไร้สาระและจาบจ้วงหรือหยาบคาย”

และบันทึกโดยท่านบุคอรีย์ ที่ว่า

” مَنْ لَمْ يَدَعْ قَوْلَ الزُّوْرِ وَالْعَمَلِ بِهِ فَلَيْسَ للهِ حَاجَهٌ فِيْ أَنْ يَدَعَ طَعَامَهُ وَشَرَابَهَ “

ความว่า : “ผู้ใดมิได้ละทิ้งคำพูดที่มุสาและเกี่ยวข้องกับมัน ไม่มีประโยชน์อันใดเลย ณ อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ในการที่เขางดอาหารและเครื่องดื่ม”

          มุสลิมต้องแสดงออกถึงความประเสริฐ เมื่อเข้าสู่เดือนรอมฎอนที่เป็นเดือนแห่งความประเสริฐ ท่านบัยฮากีย์ ได้บันทึกไว้ว่า ท่านรอซูลุลลอฮ์ (ศ้อลฯ) กล่าวว่า

أُعْطِيَتْ أُمَّتِيْ فِيْ شَهْرِ رَمَضَانَ خَمْسًا لَمْ يُعْطَهُنَّ نَبِيٌّ قَبْلِيْ

((ประชาชาติของฉันได้ถูกมอบในเดือนรอมฎอน 5 ประการ ซึ่งไม่มี      นบีท่านใดก่อนฉันได้รับเลย ))

أَمَّا الأوَّلُ : فَإِنَّهُ إِذَا كَانَ أَوَّلُ لَيْلَةٍ مِنْ شَهْرِ رَمَضَانَ نَظَرَاللهُ تَعَلَى إِلَيْهِمْ وَمَنْ نَظَرَ اللهُ  إِلَيْهِمْ لَمْ يُعَدِّبْهُ أَبَدًاَ

ประการที่ 1 เมื่อได้เข้าสู่คืนแรกของเดือนรอมฎอน อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงมองยังบ่าวของพระองค์ และผู้ใดที่พระองค์ทรงมองยังเขา เขาจะไม่ถูกอาซาบ (การลงโทษ) ตลอดไป

وَأَمَّاالتَّانِيَةُ : فَإِنَّ خُلُوْفَ أَفْوَاهِهِمْ حِيْنَ يُمْسُوْنَ أَطْيَبُ عِنْدَ اللهِ مِنْ رِيْحِ الْمِسْكِ

ประการที่ 2 กลิ่นปากของผู้ถือศีลอดในยามเย็น จะมีกลิ่นหอมมาก ณ ที่ อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ยิ่งกว่ากลิ่นหอมของชมดเชียงเสียอีก

وَأَمَّاالثَّالِثَةُ : فَإِنَّ الْمَلاَئِكَةَ تَسْتَغْفِرُ لَكُمْ كُلَّ يَوْمٍ وَلَيْلَةٍ

ประการที่ 3 เหล่าบรรดามะลาอีกะห์จะขออิสติฆฟาร (อภัยให้) แก่เขาในทุกๆ วันและคืน

وَأَمَّا الرَّابِعَةُ : فَإِنَّ اللهَ عَزَّوَجَلَّ يَأْمُرُ جَنَّتَهُ فَيَقُوْلُ لَهَا اسْتَعِدِّىْ وَتَزَيَّنِيْ لِعِبَادِيْ أَوْ شَكَ أَنْ يَسْتَرِيْحُوْا مِنْ تَعَبِ الدُّنْيَا إِلَى دَارِيْ وَكَرَامَتِيْ

ประการที่ 4  อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงมีดำรัสแก่สวรรค์ โดยพระองค์ทรงกล่าวแก่สวรรค์ว่า เจ้าจงเตรียมตัวและประดับประดาให้สวยงาม เพื่อต้อนรับบ่าวของเราใกล้แล้วที่พวกเขาจะได้รับการพักผ่อน จากความเหน็ดเหนื่อยของดุนยา สู่บ้านของเราและการให้เกียรติของเรา

وَأَمَّا الْخَامِسَة : فَإِنَّهُ إِذَاكَانَ آخِرُ لَيْلَةٍ غَفَرَ اللهُ لَهُمْ جَمِيْعًا

ประการที่ 5 เมื่อเข้าสู่ท้ายของกลางคืน อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงอภัยโทษแก่พวกเขาทั้งหมด

    قَالَ رَجُلٌ مِنَ الْقَوْمِ أَهِيَ لَيْلَةُ الْقَدْرِ ؟ فَقَالَ صَلىَّ اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : لاَ أَلَمْ تَرَ إِلَى الْعُمَّالِ يَعْمَلُوْنَ فَإِذَا فَرَغُوْا مِنْ أَعْمَالِهِمْ وُفُّوْا أُجُوْرَهُمْ .

ความว่า : “มีชายผู้หนึ่งถามขึ้นว่า มันเป็นคือกอดัร (คืนอันทรงเกียรติ) ใช่หรือไม่โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮ์ (ศ็อลฯ) ? ท่านร่อซูลุลลอฮ์ (ศ็อลฯ) จึงตอบว่า ไม่หรอกท่านไม่แลเห็นหรอกหรือ ยังคนงานที่เขาปฏิบัติงานของพวกเขา เมื่อพวกเขาเสร็จจากการทำงาน พวกเขาก็จะได้รับค่าจ้างตอบแทนอย่างสมบูรณ์”

          ท่านพี่น้องร่วมศรัทธา อย่าให้ความประเสริฐแห่งเดือนรอมฎอนหลุดลอยจากเราไป โดยไม่สนองต่อพระบัญญัติของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ซึ่งการละเลยต่อการถือศีลอด เป็นความน่าสะพรึงกลัว และน่าสมเพส สำหรับผู้ที่ละเลยต่อหน้าที่ของรอมฎอน มีบันทึกบทหนึ่ง โดยท่านติรมีญซีย์ ว่า

   قَالَ رَسُوْلُ اللهِ صَلىَّ اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : مَنْ أَفْطَرَ يَوْمًا مِنْ رَمَضَانَ مِنْ غَيْرِ رُخْصَةٍ وَلاَ مَرَضٍ لَمْ يَقْضِهِ صَوْمُ الدَّهْرِ كُلِّهِ

ความว่า : “ผู้ใดที่ไม่ถือศีลอดเพียง 1 วัน ของเดือนรอมฎอน ทั้งที่เขาไม่ได้อยู่ในข่ายผู้ได้รับการผ่อนผัน และไม่ได้ป่วย การถือศีลอดตลอดทั้งชาติของเขาก็ไม่สามารถชดใช้ได้”

          ท่านพี่น้องครับ มุมินกินเพื่ออยู่ มู่นาฟิก อยู่เพื่อกิน ดังคำพูดท่านร่อซูลุลลอฮ์ (ศ็อลฯ) ที่ได้ทรงกล่าวว่า

” اَلْمُؤْمِنُ يَأْكُلُ بِمِعْيِ وَاحِدٍ وَالْمُنَافِقُ يَأْكُلُ بِسَبْعَةِ أَمْعَاءٍ

ความว่า : “มุมินจะกินเพียง 1 ลำไส้ แต่มู่นาฟิกจะกินถึง 7 ลำไส้

          จงต่อสู้และทำสงครามกับอารมณ์ นัฟซู ด้วยการถือศีลอด อ่านพระมหาคัมภีณ์อัลกุรอานซิกิร (รำลึกถึงอัลลอฮ์) ด้วยลิ้น ยำเกรงอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ด้วยหัวใจ ไตร่ตรองด้วยปัญญา สุขุมด้วยอวัยวะ นั่งด้วยการนอบน้อม และพร้อมด้วยการยอมจำนนต่ออัลลอฮ์

 

أَقُوْلُ قَوْلِىْ هَذَا وَاَسْتَغْفِرُ اللهَ الْعَظِيْمَ لِىْ وَلَكُمْ وَلِسَائِرِ الْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ فَاسْتَغْفِرُوْهُ إِنَّهُ هُوَالْغَفُوْرُالرَّحِيْمُ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

กรุณาเติมคำตอบในช่องว่างก่อนเข้าระบบ *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Scroll To Top